รีวิวเคสนักลงทุน E2 ต่ออายุวีซ่าโดยซื้อร้าน “เปิดใหม่” ในสหรัฐอเมริกา
ลูกค้ารายนี้เป็นเจ้าของร้านอาหารไทย 50% ในสหรัฐอเมริกามาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว โดยได้ยื่นขอวีซ่า E2 เป็นครั้งแรกในปี 2564 และได้รับการอนุมัติ จากนั้นเมื่อปี 2566 ต้องการขอต่ออายุวีซ่าด้วยการเปลี่ยนร้านใหม่เพื่อเป็นเจ้าของ 100%
สำหรับการขอต่ออายุวีซ่า E2 และการเปลี่ยนร้านใหม่ เอกสารสำคัญที่ต้องมี ประกอบด้วย
ต้นทุนในการเริ่มต้น นักลงทุนจะต้องระบุปริมาณเงินทุนที่ต้องใช้ในการเปิดร้านอาหารใหม่ และต้องสามารถแสดงให้เห็นว่ามีเงินทุนเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจในสหรัฐอเมริกา
การประเมินตลาด นักลงทุนควรจะเตรียมเอกสารที่ระบุการประเมินตลาดสำหรับร้านอาหารใหม่ของพวกเขา เอกสารนี้จะช่วยให้ USCIS เข้าใจถึงศักยภาพของธุรกิจและความเสี่ยงที่นักลงทุนจะประสบ
ที่มาของเงินลงทุน นักลงทุนควรระบุแหล่งที่มาของเงินลงทุนที่ใช้ในการเปิดร้านอาหารใหม่ เอกสารนี้จะช่วยให้ USCIS เข้าใจว่านักลงทุนมีเงินทุนเพียงพอที่จะดำเนินธุรกิจในสหรัฐอเมริกา
เอกสารการจ่ายภาษี นักลงทุนควรจะเตรียมเอกสารที่แสดงให้เห็นถึงประวัติการเสียภาษี
ในเคสนี้ ลูกค้ารายนี้ได้เตรียมเอกสารครบถ้วนและยื่นแบบพรีเมี่ยม Form I-907 เสียค่าธรรมเนียม 2,500 ดอลลาร์สหรัฐ ผลปรากฏว่าได้รับอนุมัติภายใน 7 วัน
ข้อดีของการยื่นแบบพรีเมี่ยม
การยื่นแบบพรีเมี่ยม Form I-907 จะทำให้ทราบผลอนุมัติภายใน 7 วัน ซึ่งเร็วกว่าการยื่นแบบปกติที่ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทราบผลอนุมัติเร็ว
เคล็ดลับในการขอต่ออายุวีซ่า E2
เตรียมเอกสารครบถ้วนและถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับวีซ่า E2 ให้ดี เพื่อให้เข้าใจถึงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการขอวีซ่า